เปิดใจ ครูศูนย์เด็กเล็ก เผยนาทีคุ้มกันเด็กๆ หลังรับแจ้งมีคนคลุ้มคลั่ง รีบล็อกทุกจุด

ครูประจำศูนย์เด็กเล็กฯ เปิดเผยนาทีที่ได้รับแจ้งว่ามีคนบ้าคลั่ง ชี้มีการฝึกแผนก่อนหน้านี้แล้ว ตำรวจวิเคราะห์วงจรปิด เจอวนเวียนถึง 2 รอบ
จากกรณี นายกองพล หรือ หมิง อายุ 30 ปี ชาวบ้านหมู่ 1 ต.โกรกแก้ว อำเภอโนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ในอาการบ้าคลั่งคล้ายกับหลอนยาบ้า ก่อเหตุใช้ไม้ตีหัว นางสาวสุภาพร อายุ 45 ปี ผู้เป็นแม่ของตัวเองจนได้รับบาดเจ็บ แล้วยังกลับไปเผาบ้านตนเองวอดทั้งหลัง
แต่มีเรื่องที่สร้างความวุ่นวายให้กับเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน หลังจากชาวบ้านแจ้งว่า นายหมิง กำลังจะออกไปที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาล ต.โนนสุวรรณ เพื่อไปตามหาลูกวัย 4 ขวบ ทำให้ทั้งตำรวจ เจ้าหน้าที่ของเทศบาลโนนสุวรรณ และก็ครูในศูนย์เด็กเล็ก ต่างเตรียมความพร้อมแม้มีเหตุร้ายเกิดขึ้น เหมือนกับจังหวัดหนองบัวลำภู
ก่อนที่จะต่อมาเจ้าหน้าที่จะสามารถจับกุมตัวนายหมิงได้ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ทุ่งนา ดังที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เผยนาทีคุ้มกันเด็กๆ

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวกล่าวว่า จากการสอบถาม นางสาวดาวประกาย กำพูชาติ

ครูประจำศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาล ต.โนนสุวรรณ เล่าถึงเรื่องราวในเวลานั้นว่า “ก่อนหน้านี้ทางศูนย์เด็ก ได้รับนโยบายกรอบการป้องกันเด็กไว้แล้ว คือหลังจากผู้ปกครองเด็กมาส่งบุตรหลาน ให้ล็อกทุกจุดของศูนย์เด็ก ซึ่งได้ทำมาเป็นประจำทุกวัน ช่วงเกิดเหตุวันนี้ เป็นช่วงที่เด็กนักเรียนที่มาเรียนวันนี้ประมาณ 50 คน จาก 90 คน กำลังซ้อมฟ้อนเพื่อจะไปร่วมกิจกรรมวันลอยกระทง ได้มีผู้ปกครองหลายคนวิ่งมาบอกว่า นายหมิง กำลังจะบุกมาที่ศูนย์เด็กเล็ก ถือมีดมาด้วย จึงได้ให้เด็กขึ้นไปชั้น 2 พร้อมล็อกประตูทุกจุด ส่วนเด็กไม่ทราบว่ามีเหตุอะไรเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีการเตรียมความพร้อมไว้แล้วก็ตาม แต่ยอมรับว่าตื่นเต้นมาก เพราะเคยเห็นแค่จังหวัดอื่น ไม่คิดว่าจะมีเหตุล่อแหลมแบบนี้”

หลังรับแจ้งมีคนคลุ้มคลั่ง

ด้าน นางสาวศุภิสรา ศรีงาม นายกเทศบาลตำบลโนนสุวรรณ ได้ออกมากล่าวว่า

ที่ผ่านมาหลังจากมีเหตุที่จังหวัดหนองบัวลำภู ได้มีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเตรียมแผนไว้ป้องกันเหตุ กับกลุ่มที่ติดยาเสพติดยอมรับว่าเทศบาลทำได้เพียงการรณรงค์และการป้องกันผู้เสพยาเท่านั้น ส่วนข้อกฎหมายเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือฝ่ายปกครอง แต่ตอนนี้ยังไม่มั่นใจว่านายหมิง ซึ่งมีอาการถึงขนาดนี้ เจ้าหน้าที่จะสามารถควบคุมไว้ได้นานแค่ไหน

ดังนี้ จากการวิเคราะห์กล้องจากภาพวงจรปิด พบว่านายหมิงได้มีวนเวียนผ่านหน้าศูนย์เด็กเล็กจริง 2 รอบ แต่ยังไม่มีแนวทางการแก้ไขที่ดียิ่งกว่าการป้องกัน ด้วยเหตุว่าผู้ก่อเหตุจัดว่าเป็นกลุ่มผู้เสพ เป็นผู้ป่วยเพียงแค่นั้น