Category ข่าวกีฬา

ฟุตบอลโลก 2022

เมสซี, เอ็มบัปเป้ นำทัพ! ทีมยอดเยี่ยม ฟุตบอลโลก 2022

รวบรวม 11 นักฟุตบอลฟอร์มโดดเด่นที่สุด เข้ามาติดทีมยอดเยี่ยมประจำศึก ฟุตบอลโลก 2022 ของเรา

ฟุตบอลโลก 2022 สิ้นสุดลงแล้ว ด้วยจำนวนประตูที่เยอะมากเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งเกมสุดดราม่ามากมาย และจบท้ายด้วยรอบชิงแชมป์ที่ตื่นเต้นเร้าใจที่สุดในประวัติศาสตร์ของรายการนี้

อาร์เจนตินาเอาชนะฝรั่งเศสในนัดชิงแชมป์ด้วยการดวลจุดโทษ โดยในที่สุด ลิโอเนล เมสซี ก็ยุติการคอยถ้วยแชมป์ที่ต้องการมากที่สุดในชีวิตการค้าแข้งจนได้ และเปลี่ยนมาเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแบบไม่มีข้อโต้แย้งอะไรก็ตาม

นอกจากนั้น เมสซี ยังครอบครองรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมไปครองได้ด้วย ซึ่งแน่ๆว่าเขาเป็นตัวเลือกแรกในทีมยอดเยี่ยมประจำศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่จัดโดย GOAL

เอ็นโซ เฟร์นานเดซ

ส่วนอีก 10 คนที่เหลือมีคนใดกันบ้าง ฟุตบอลโลก 2022 ติดตามได้ที่ด้านล่าง

ผู้รักษาประตู : เอมิเลียโน มาร์ติเนซ (อาร์เจนตินา)

หลังจากเสีย 2 ประตูให้กับซาอุดีอาระเบียในเกมแรก หลังหลังจากนั้น มาร์ติเนซ ก็ไม่ปล่อยให้เกมรับของทีมจะต้องลำบากอีกเลย

นายด่านจากแอสตัน วิลลา มีทั้งลูกเซฟสุดสำคัญบ่อยครั้งในเกมเวลาปกติ อีกทั้งยังโชว์ความเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเซฟจุดลูกโทษได้อย่างน่าทึ่ง

โดยเฉพาะในนัดชิงแชมป์ ที่เขาเซฟลูกยิงจ่อๆของ ร็องดาล โกโล มูอานี ช่วงท้ายเกมของต่อเวลาพิเศษ รวมทั้งยังเซฟลูกจุดโทษของ คิงส์ลีย์ โกมาน จนถึงพาทัพฟ้าขาวได้แชมป์โลกยุคที่ 3

และแน่ๆว่าเขาเป็นผู้คว้ารางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมประจำการแข่งขันแบบเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง

แบ็คขวา : อัชรอฟ ฮากิมี (โมร็อกโก)

แบ็คขวาจากปารีส แซงต์-แชร์กแมง โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ ด้วยการเป็นกำลังสำคัญสำหรับเพื่อการพาโมร็อกโกสร้างเซอร์ไพรส์ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ

โมเมนต์สำคัญของ ฮากิมี ต้องเป็นการยิงจุดโทษเป็นคนสุดท้ายด้วยการชิพแบบปาเนนก้าสุดคลาสสิค พาโมร็อกโกโค่นทีมใหญ่อย่างสเปน

เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ : นิโกลัส โอตาเมนดี้ (อาร์เจนตินา)

ด้วยวัยที่ล่วงเลยมาถึง 34 ปีแล้ว ทำให้ไม่มีผู้ใดคาดหวังว่า โอตาเมนดี้ จะยังคงทำผลงานดีเหมือนเมื่อก่อน

แต่ด่านหลังจากเบนฟิก้ากลับทำผลงานได้ยอดเยี่ยมตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ ด้วยการใช้ประสบการณ์ความเก๋าคอยเป็นหัวใจในแนวรับของอาร์เจนตินา ถึงแม้อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีจังหวะพลาดทำเสียจุดลูกโทษลูกแรกในนัดชิงชนะเลิศ แต่นอกเหนือจากนั้นก็ถือว่าเขาโชว์ฟอร์มได้ดีเกินความคาดหมายทีเดียว

เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ : ยอสโก้ กวาร์ดิโอล (โครเอเชีย)

การโดน ลิโอเนล เมสซี หลอกจนปั่นป่วนในรอบรองชนะเลิศ ไม่สามารถบังความยอดเยี่ยมของกองหลังวัยแค่เพียง 20 ปีได้อย่างแน่แท้

กวาร์ดิโอล เป็นที่จำอีกทั้งภาพลักษณ์ที่สวมหน้ากากลงสนามทุกเกม รวมทั้งยังเป็นแถวรับที่เล่นได้สะดุดตาและนิ่งเกินวัย และคงจะจัดเตรียมทำเงินก้อนโตให้ต้นสังกัดอย่าง แอร์เบ ไลป์ซิด ซึ่งถ้าหากว่าถูกขายไปให้ทีมยักษ์ใหญ่

แบ็คซ้าย : เตโอ แอร์กน็องเดซ (ฝรั่งเศส)

แบ็คซ้ายจากเอซี มิลาน ออกตัวเกมแรกด้วยการเป็นตัวสำรองของพี่ชายตนเองอย่าง ลูกัส แอร์กน็องเดซ

แต่หลังจาก ลูกัส บาดเจ็บตั้งแต่ต้นเกม และจะต้องหยุดไม่มีกำหนดหลังจากนั้น น้องชายอย่าง เตโอ ก็คว้าจังหวะไว้ได้ยอดเยี่ยม เมื่อจัดการยึดตัวจริงยาวมาจนกระทั่งรอบชิงแชมป์

ด้วยความที่เป็นนักเตะในตำแหน่งแบ็คอาชีพเพียงคนเดียวของทีม ทำให้ เตโอ มีจุดเด่นที่การเติมเกมยอมรับได้อย่างไหลลื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติมไปยิงประตูขึ้นนำโมร็อกโกในรอบตัดเชือก

เอ็มบัปเป้

คนที่เหลือรับประกันได้เลยว่ามีแต่ตัวเด็ดๆ ทั้งนั้น

กองกลาง : โซฟยาน อัมราบัต (โมร็อกโก)

มิดฟิลด์จากฟิออเรนตินา แจ้งเกิดได้อย่างไม่มีผู้ใดคาดคิดในทัวร์นาเมนต์นี้

อัมราบัต ถือเป็นห้องเครื่องคนสำคัญที่คอยขับเคลื่อนเกมของโมร็อกโกทั้งยังรุกและรับ ด้วยจุดเด่นการวิ่งไม่มีหมด และพร้อมสู้บู๊ทุกจังหวะ โดยเฉพาะช็อตที่ถูกยกย่องเป็นอย่างมาก เป็นการวิ่งตามไปทิ่มสกัดแย่งบอลจาก คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ได้อย่างยอดเยี่ยม

แน่นอนว่าฝีเท้าขนาดนี้ เขาคงจะได้อยู่กับฟิออเรนตินาอีกไม่นาน และตระเตรียมถูกทีมยักษ์ใหญ่ทุ่มเงินคว้าตัวไปเสริมทัพเร็วนี้ๆ

กองกลาง : เอ็นโซ เฟร์นานเดซ (อาร์เจนตินา)

ดาวรุ่งจากเบนฟิก้า ออกตัวเกมแรกด้วยการเป็นตัวสำรอง แต่หลังจากได้โอกาสลงตัวจริงในเกมที่สอง และจัดการยิงใส่เม็กซิโกได้ด้วย เขาก็กลายมาเป็นกำลังสำคัญของทีมแบบถาวร

และการเป็นตัวหลักของอาร์เจนตินาด้วยวัยเพียง 21 ปี ก็ส่งให้ เฟร์นานเดซ เอารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ไปครอบครอง และด้วยฟอร์มขนาดนี้ แน่นอนว่าเบนฟิก้าเตรียมทำเงินก้อนโตจากการขายเขาให้ทีมยักษ์ใหญ่เร็วนี้ๆ

ตัวรุกฝั่งขวา : ลิโอเนล เมสซี (อาร์เจนตินา)

คงไม่ต้องพูดอะไรกันมากมายสำหรับนักฟุตบอลรายนี้

เมสซี ประกาศก่อนเริ่มการแข่งขันแล้วว่าจะเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของตนเอง พร้อมด้วยถูกตั้งคำถามมากมายก่ายกองว่าด้วยวัย 35 ปี เขาจะทำผลงานระดับมาสเตอร์พีซได้อีกหรือเปล่า

สุดท้ายเขาตอบปัญหาเหล่านี้ ด้วยการกดไปถึง 7 ประตู คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมพร้อมกับเติมเต็มความฝันด้วยการได้ชูถ้วยฟีฟ่า เวิลด์คัพแบบแฮปปี้เอนดิ้ง

หน้าต่ำ : อองตวน กรีซมันน์ (ฝรั่งเศส)

จากนักฟุตบอลที่เสมือนจะผ่านจุดสุดยอดไปแล้ว แต่ทว่า กรีซมันน์ กลับมาเล่นได้ดีอีกทีในบทบาทใหม่

ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ผู้จัดการทีมฟุตบอลของฝรั่งเศสปรับตำแหน่งให้ดาวเตะจากแอตเลติโก มาดริดถอยลดน้อยลงมายืนเป็นเหมือนกองกลางเลข 8 ซึ่งกลายเป็นว่าเขาบางทีก็อาจจะทำผลงานได้ดีกว่าตอนเล่นเป็นหน้าต่ำก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาเสียอีก

แม้ว่าจะทำประตูด้วยตัวเองไม่ได้ แต่เขาก็ทำไปถึง 3 แอสซิสต์ เปลี่ยนเป็นนักฟุตบอลปิดทองหลังพระของฝรั่งเศสประจำทัวร์นาเมนต์นี้อย่างแท้จริง

ตัวรุกฝั่งซ้าย : คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (ฝรั่งเศส)

เอ็มบัปเป้ พัฒนาตัวเองจากดาวรุ่งเมื่อปี 4 ปีก่อนที่รัสเซีย กลายมาเป็นนักฟุตบอลระดับเวิลด์คบาสแบบสุดกำลังในปีนี้ที่กาตาร์

ตัวรุกจากปารีส แซงต์-แชร์กแมง กดไปถึง 8 ประตู คว้ารองเท้าทองคำไปครอบครองในฐานะดาวซัลโวสูงสุดประจำทัวร์นาเมนต์นี้

น่าเสียดายที่ยังไม่พอที่จะพาฝรั่งเศสป้องกันแชมป์ได้ตามที่หวัง

แนวรุก : ฮูเลียน อัลวาเรซ (อาร์เจนตินา)

อีกหนึงนักเตะของอาร์เจนตินาที่เริ่มเกมแรกด้วยการเป็นตัวสำรอง แต่หลังจากยึดตัวจริงได้ในเกมที่สอง หลังหลังจากนั้นก็กลายเป็นกำลังหลักของทีมแบบเต็มตัวจนกระทั่งจบทัวร์นาเมนต์

อัลวาเรซ กลายมาเป็นคู่หูต่างวัยที่เล่นร่วมกับ ลิโอเนล เมสซี ได้อย่างพอดี และยังโชว์ความเฉียบคมด้วยการยิงไป 4 ประตู

นั่นทำให้แฟนบอลทีมอื่นๆต่างอิจฉาแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กันยกใหญ่ ที่มีสองยอดเยี่ยมแนวรุกดาวรุ่งแห่งสมัยอีกทั้ง อัลวาเรซ รวมถึง เออร์ลิง ฮาลันด์ อยู่ในทีม

ฟุตบอลโลก 2022

"ฟีฟ่า" ส่ง 2 เปา อังกฤษ กลับบ้าน ก่อนเลือกโจทก์เก่า "คลอปป์" เป่านัดชิง "ฟุตบอลโลก 2022"

ฟีฟ่าส่ง 2 เปาอังกฤษ กลับบ้านแล้วก่อนที่จะเลือกโจทก์เก่าของ เยอร์เกน คลอปป์ เป่านัดชิงชี้ชะตาแชมป์ ฟุตบอลโลก 2022 วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2565

การเปลี่ยนแปลงก่อนศึก ฟุตบอลโลก2022 นัดชิงชนะเลิศที่ประเทศกาตาร์ ซึ่งเป็นการเจอกันของทีมชาติอาร์เจนตินา แชมป์ 2 ยุค พบกับ ทีมชาติฝรั่งเศส แชมป์ 2 ยุคและแชมป์เก่าเมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งจะแข่งขันในวันที่ 18 ธันวาคม นี้

โดยปัจจุบันมีกล่าวว่า สมาพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า ฝ่ายจัดการแข่งขันได้เลือกผู้ตัดสินที่จะลงทำหน้าที่ในนัดชิงชนะเลิศและนัดชิงอันดับที่ 3 ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับนัดชิงชนะเลิศ ผู้ตัดสินที่จะลงทำหน้าที่ในเกมนี้คือ ชีมอน มาร์ซีเนียค ผู้ตัดสินสัญชาติโปแลนด์ เป็นผู้ตัดสินที่ 1 ของเกมนี้

ซึ่งหลังจากการประกาศรายนามก็มีการขุดสถิติ และ วีรกรรมเก่าๆออกมาพูดถึงกันอยู่มา

โดยที่ในฟุตบอลโลก 2022 ผู้ตัดสินรายนี้ตัดสินทั้ง อาร์เจนตินา และ ฝรั่งเศส มาแล้ว 1 ครั้ง

โดยทั้ง 2 ทีมสามารถเอาชนะคู่แข่งไปด้วยสกอร์ 2-1 ทั้งคู่ โดย ฟ้าขาว ชนะ ประเทศออสเตรเลียในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วน ฝรั่งเศส ชนะ เดนมาร์ก ในรอบแบ่งกลุ่ม

นอกเหนือจากนั้น ผู้ตัดสินรายนี้เคยเป็นโจทก์เก่าของ เยอร์เกน คลอปป์ ผู้จัดการทีมฟุตบอลของ ลิเวอร์พูล

ในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรกของศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก เมื่อฤดูกาล 2019-20 เกมที่ หงส์แดง บุกไปแพ้ แอตเลติโก มาดริด 0-1 ก่อนที่จะไม่เข้ารอบดังกล่าวในปีนั้นอีกด้วย

ขณะที่ผู้ตัดสินหลักในนัดชิงอันดับที่ 3 โครเอเชีย จะพบกับ โมร็อกโกเป็นผู้ตัดสินจากชาติเจ้าภาพ อับดุลเราะห์มาน อัลญาซิม ชาวกาตาร์ ที่จะได้รับจังหวะลงทำหน้าที่ในเกมนี้ โดยจะแข่งขันในวันที่ 17 ธ.ค. เวลา 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

นัดชิงฟุตบอลโลก 2022

ก่อนนัดชิง ฟุตบอลโลก 2022 “เบคแคม” เผย 4 โมเมนต์ก่อน อาร์เจนตินา VS ฝรั่งเศส

ก่อนนัดชิงชนะเลิศ “ฟุตบอลโลก 2022” จะฟาดแข้ง “เดวิด เบคแคม” อดีตแข้งดัง “ทีมชาติอังกฤษ” ออกมาเปิดเผย 4 โมเมนต์ติดอกติดใจก่อนคู่ต่อสู้ “อาร์เจนตินา” เจอ “ทีมชาติฝรั่งเศส”

วันที่ 16 ธันวาคม 65 ก่อนนัดชิงชนะเลิศ “ฟุตบอลโลก2022”

จะฟาดแข้ง เดวิด เบคแคม อดีตแข้งระดับตำนานของ “สิงโตคำราม” ทีมชาติ อังกฤษ ออกมาเปิดเผย 4 โมเมนต์ที่ซาบซึ้งใจ

ในศึกมหกรรมลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก ก่อนคู่ชิง “ฟ้าขาว” อาร์เจนตินา จากการนำทัพ ลิโอเนล สกาโลนี ที่จะพบกับ “ตราไก่” ทีมชาติฝรั่งเศส ที่มี ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุมบังเหียน

ล่าสุด เดวิด เบคแคม ออกมาเปิดเผยถึงโมเมนต์ที่ตัวเขาจับใจกับ ทัวร์เมนต์ เวิลด์ คัพ 2022 ฉบับกาตาร์ ว่า “ช่างเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ยอดเยี่ยมเหลือเกิน มีช่วงเวลาที่น่าจดจำมากมาย พลังของแฟนบอลที่น่าทึ่งมาก รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่าใครจะเป็นผู้ชูถ้วยแชมป์ ฟุตบอลโลก 2022”

สำหรับ “ฟ้าขาว” ทีมชาติอาร์เจนตินา จะลงเจอ “ตราไก่” ทีมชาติฝรั่งเศส ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบชิงแชมป์ วันที่ 18 ธันวาคม 2565 ถ่ายทอดสดทางช่อง True4U และช่อง CH7.

ฟ้าขาว บู๊ ตราไก่

เจาะ 5 คีย์แมนหลัก “ฟ้าขาว” บู๊ “ตราไก่” เดิมพันแชมป์

“ฟุตบอลโลก 2022” หรือ FIFA World Cup Qatar 2022 ซึ่งเริ่มทำการแข่งขันมาตั้งแต่วันที่ 20 เดือนพฤศจิกายนจนถึง วันที่ 18 ธ.ค.

กำลังเดินทางถึงคู่ชิงชนะ โดยในคราวนี้สมการรอคอยมาร่วม 4 ปี ได้ ทีมจากโซนอเมริกาใต้

โซนยุโรป ตัดสินแชมป์ กาตาร์เวิลด์คัพ ระหว่าง อาร์เจนตินา เจอกับ ฝรั่งเศส ในรอบชิงชนะเลิศ ถ่ายทอดสด เวลา 22.00 น. ทางช่อง True4U , CH7

โดยสองทีม ทัพ ฟ้าขาว และ ทัพ ตราไก่ ถือเป็นทีมที่มีมูลค่านักฟุตบอลติดท็อปของโลก

โดย อาร์เจนตินา มีมูลค่าทีมราว 617 ล้านยูโร หรือกว่า 23,000 ล้านบาท ฝรั่งเศส มูลค่าทีมเฉลี่ยอยู่ที่ 1 พันล้านยูโร หรือกว่า 36,000 ล้านบาท ซึ่งหากเทียบขุมกำลังของทั้งสอง โดยมี 5 นักเตะตัวหลัก มีดังนี้

1. เริ่มกันที่ ลิโอเนล เมสซี่ ศูนย์หน้าคนสำคัญของ อาร์เจนตินา วัย 35 ปีจากสโมสร ปารีส แซงต์ แชร์กแมงในศึก ลีกเอิง ฝรั่งเศส เจ้าของบัลลงดอร์ 7 สมัย สถิติในศึก “ฟุตบอลโลก 2022” ลงสนาม 6 นัด ทำ 5 ประตู นำดาวซัลโว และ 3 แอสซิสต์

ขณะที่ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ศูนย์หน้า ฝรั่งเศส วัย 36 ปี จากสโมสร เอซี มิลาน ในศึก กัลโช่ เซเรียอา อิตาลี เจ้าของสถิติทำประตูมากที่สุดในทีมชาติ สำหรับ สถิติในศึก “ฟุตบอลโลก 2022” ลงสนาม 5 นัด ทำ 4 ประตู

2. ฆูเลียน อัลบาเรซ กองหน้า อาร์เจนตินา วัย 22 ปี จากสโมสร แมนซิตี้ ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยถือเป็นการลงแข่งขันทัวร์นาเมนต์ ฟุตบอลโลก ครั้งแรกของตนเอง ซึ่งมีสถิติในศึก “ฟุตบอลโลก 2022” ลงสนาม 6 นัด ทำ 4 ประตู

ขณะที่ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ปีก กองหน้า วัย 23 ปี จากสโมสร ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในศึก ลีกเอิง ฝรั่งเศส เป็นอีกหนึ่งนักเตะในชุดที่เคยพา ฝรั่งเศส คว้าแชมป์เมื่อปี 2018 ผลงานในศึก “ฟุตบอลโลก 2022” ลงสนาม 5 นัด ทำ 5 ประตู นำดาวซัลโว และ 2 แอสซิสต์

3. เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ เพลย์เมคเกอร์ อาร์เจนตินา วัย 21 ปี จากสโมสร เบนฟิก้า ในศึก ซูเปอร์ลีก โปรตุเกส โดยถือเป็นอีกหนึ่งนักเตะน่าจับตามองของทัวร์นาเมนต์ และมีสถิติในศึก “ฟุตบอลโลก 2022” ลงสนาม 5 นัด ทำ 1 ประตู 1 แอสซิสต์

4. นิโกลัส โอตาเมนดี้ กองหลัง อาร์เจนตินา วัย 34 ปี จากสโมสร เบนฟิก้า ในศึก ซูเปอร์ลีก โปรตุเกส ซึ่งถือเป็นกองหลังจอมเก๋าอีกหนึ่งคน มีสถิติในศึก “ฟุตบอลโลก 2022” ลง 6 นัด ทำ 1 แอสซิสต์

5. เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตู อาร์เจนตินา วัย 29 ปี จากสโมสร แอสตัน วิลล่า ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สถิติในศึก “ฟุตบอลโลก 2022” ลง 6 นัด คลีนชีต 3 นัด เสีย 5 ประตู

ฝรั่งเศส พบ โมร็อกโก

วิเคราะห์บอล !! ฟุตบอลโลก 2022 ฝรั่งเศส เจอ โมร็อกโก 14 ธันวาคม65ฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ

“ตราไก่” ฝรั่งเศส แชมป์เก่า ของกุนซือ ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เน้นเต็มสูบเพื่อสานฝันเถลิงบัลลังก์ 2 สมัยติดการจัดทัพวาง คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ นำทัพ ดวล โมร็อกโก ทีมม้ามืดที่ฟอร์มดีเหนือความคาดหมายแนวรุกไว้ใจ ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ ล่าสกอร์สู้ ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ คืนวันพุธที่ 14 ธ.ค.นี้

ฟุตบอลโลก 2022

สภาพทีม ฝรั่งเศส

ดิดิเยร์ เดสช็องส์ ผู้จัดการทีมทีมชาติฝรั่งเศส แชมป์เก่า ยังอยู่ในเส้นทางป้องกันแชมป์ หลังเฉือนชนะ อังกฤษ 2-1 จะยังคงใช้ระบบหลัก 4-2-3-1 แต่เกมนี้ต้องลุ้นอาการของ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ด่านหลังตัวกลาง และ ออเรเลียง ชูอาเมนี่ กลางรับ ที่ไม่ได้ลงซ้อม โดย อูปาเมกาโน่ ป่วยมีอาการเจ็บคอ และ คล้ายเจ็บป่วย ส่วน ชูอาเมนี่ บาดเจ็บเล็กน้อย ก็เลยต้องกายภาพ แต่สุดท้ายคงจะลงเล่นได้ โดยมี ฌูลส์ กุนเด้ และ เตโอ แอร์กน็องเดซ เติมเกมขวา-ซ้าย อุสมาน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์ และ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ที่นำเป็นดาวซัลโวที่ 5 ประตู จะเป็นสามผสานอยู่หลัง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ที่ยืนเป็นหน้าเป้าปิดสกอร์

ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม

ฝรั่งเศส (4-2-3-1)

อูโก้ โยริส

ฌูลส์ กุนเด้, ราฟาแอล วาราน, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, เตโอ แอร์กน็องเดซ

ออเรเลียง ชูอาเมนี่, อาเดรียง ราบิโอต์

อุสมาน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์, คีเลียน เอ็มบัปเป้

โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

สภาพทีม โมร็อกโก

วาลิด เรกรากุย ผู้จัดการทีมที่กำเนิดยังฝรั่งเศส ได้สร้างประวัติศาสตร์พาทีมชาติโมร็อกโก ให้กลายเป็นทีมจากแอฟริกา เข้ารอบรองชนะเลิศ ในฟุตยอลโลก 2022 เป็นครั้งแรก หลังจากเหลือ 10 คนก่อนเฉือนชนะ โปรตุเกส 1-0 และยังไม่แพ้คนไหนใน ฤดูกาลนี้ แถมเสียไปเพียงแค่ประตูเดียวซึ่งเป็นการที่ผู้เล่นตัวเองทำเข้าประตูด้วย ความพร้อมเพรียงนัดนี้ในระบบ 4-3-3 จะไม่มี วัลลิด เชดดิร่า ตัวสำรองที่โดนไล่ออกในเกมรอบ 8 ทีมสุุดท้าย แต่จะไม่มีผลกระทบกับทีมแต่ประการใด นาเยฟ อาเกิร์ด ที่เจ็บพลาดลงในเกมเดียวกัน แต่นัดนี้จะฟิตกลับมายืนเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ โรแม็ง ซาอิสส์ ที่จะฟิตด้วยเหมือนกัน แม้ในเกมกับโปรตุเกส จะถูกเปลี่ยนออกเนื่องจากว่ามีปัญหาที่เอ็นร้อยหวายก็ตาม ส่วนตัวหลักอย่าง อาชราฟ ฮาคิมี่,ฮาคิม ซิเย็ค และ โซฟิยาน บูฟาล พร้อมลงสนามตั้งแต่ต้นเกมทั้งปวง

ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม

โมร็อกโก (4-3-3)

ยาสซีน บูนู

อาชราฟ ฮาคิมี่, นาเยฟ อาเกิร์ด, โรแม็ง ซาอิสส์, นุสแซร์ มาซราอุย

อัซเซดีน อูนาฮี, โซฟียาน อัมราบัต, เซลิม อมัลลาห์

ฮาคิม ซิเย็ค, ยุสเซฟ เอ็น เนซีรี่, โซฟิยาน บูฟาล

ความน่าจะเป็นของเกม

ความยืดหยุ่นในแนวรับ และการเล่นอย่างมีระเบียบวินัยของ โมร็อกโก ไม่ได้รับผลพวงจากความรู้สึกหนักใจเรื่องอาการบาดเจ็บในเกมพบโปรตุเกส แต่เกมนี้มาพบ ฝรั่งเศส ที่กลายเป็นเต็ง 1 ในรอบตัดเชือก ถือว่าเป็นงานไม่หมูแน่นอน ทีมจากแอฟริกา จะมาเล่นด้วยสปิริต และ สู้กับขุนพล “เลส์ เบลอส์”ที่มี คีเลียน เอ็มบัปเป้ ที่กำลังคั่ว ดาวซัลโว ของทัวร์นเมนต์ ได้อย่างสนุก และ ใส่เต็มที่อย่างแน่แท้ ซึ่งดูแล้ว 90 นาทีเวลาปกติโอกาสที่จะออกเสมอ และต่อเวลาพิเศษออกไป น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด ก่อนที่ ฝรั่งเศส จะไปชนะในช่วงต่อเวลาพิเศษ

ฝรั่งเศส

ไร้แผนรับมือเอ็มบัปเป “โมร็อกโก” ชี้ 3 ต้นสายปลายเหตุลุ้นชนะ “ฝรั่งเศส” เข้าชิงฟุตบอลโลก 2022

วันที่ 13 ธ.ค. 2565 วาลิด เรกรากุย ผู้จัดการทีมชาติโมร็อกโก ให้สัมภาษณ์สำหรับการแถลงข่าวก่อนเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ คู่ที่ 2 ซึ่งจะพบศึกหนัก พบกับ “แชมป์เก่า” ทีมชาติฝรั่งเศส คืนวันพุธที่ 14 ธ.ค.นี้ 02.00 น. ตามเวลาไทย

ดังนี้ โมร็อกโก ถือเป็นชาติแรกจากทวีปแอฟริกาที่ทะลุเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศของศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย หลังหักปากกาเซียน ชนะทั้ง เบลเยียม ในรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ, ดวลจุดลูกโทษชนะ สเปน ในรอบ 16 ทีม และเฉือนชนะ โปรตุเกส ในรอบ 8 ทีม ซึ่งถ้าหากพลิกล็อกปราบ ฝรั่งเศส 1 ในทีมเต็งแชมป์เข้ารอบชิงชนะเลิศได้อีก ก็จะกลายเป็นทีมม้ามืดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เวิลด์คัพ

แม้สื่อมวลชนจะจับตาดูว่า โมร็อกโก จะหาวิธีไหนมารับมือ คีเลียน เอ็มบัปเป แนวรุกฝรั่งเศส ผู้นำ ดาวซัลโว ฟุตบอลโลก 2022 ที่ซัดไปแล้ว 5 ประตู แต่ วาลิด เรกรากุย ก็ตอบแบบไม่ต้องมีความรู้สึกว่า “น่าเสียดายสำหรับเรา เพราะ ฝรั่งเศส มีนักเตะฝีเท้าดีมากมายในทีม ไม่ใช่แค่ คีเลียน เอ็มบัปเป แต่พวกเขายังมี อองตวน กรีซมันน์ และนักเตะดีๆ อีกหลายคน ดังนั้นผมจะไม่โฟกัสแค่ เอ็มบัปเป แต่เราจะเล่นเป็นทีม”

ส่วนการเผชิญหน้ากันระหว่าง 2 เพื่อนซี้ต่างทีมชาติ ซึ่ง อัชราฟ ฮาคิมี แบ็กขวาโมร็อกโก จึงควรรับหน้าที่สกัดกั้น เอ็มบัปเป เพื่อนร่วมทีมเปแอสเช เรกรากุย ได้กล่าวว่า “เขาเป็นแชมเปียนผู้ยิ่งใหญ่ ดังนั้นผมจึงไม่กังวล พวกเขาทั้ง 2 คนต่างก็เป็นแชมเปียนที่ไม่มีใครยอมใครในสนาม ซึ่ง อัชราฟ ก็มีแรงจูงใจอย่างมากที่จะเอาชนะเพื่อนสนิทของเขา”

ขณะที่โอกาสลุ้นสร้างประวัติศาสตร์เป็นแอฟริกาชาติแรกที่เข้ารอบชิงชนะเลิศ ผู้จัดการทีมโมร็อกโก ตอบว่า “เราเป็นทีมที่มีความทะเยอทะยานและกระหาย ผมไม่แน่ใจว่าสิ่งนั้นจะเพียงพอหรือไม่ แต่เราหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น เราต้องการทำให้แอฟริกาขึ้นไปเป็นทีมหัวแถวของโลก ผมไม่ได้บ้า แต่ผมรู้ว่ามันจะยาก”

“เราต้องการเข้ารอบชิงชนะเลิศ และเรายังไม่พอใจกับการเป็นชาติแอฟริกาชาติแรกที่ผ่านเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศ เราต้องการไปให้ไกลกว่านี้ เรากำลังเผชิญหน้ากับทีมที่ดีที่สุดในโลก แต่เราโฟกัสไปที่เป้าหมายของเรา ซึ่งเกมนี้เป็นการเล่นแบบนัดเดียวจบ”

“(3 ปัจจัยลุ้นชนะ ฝรั่งเศส) เมื่อคุณมีความหลงใหล ความปรารถนา, มีความมุ่งมั่น และมีแฟนบอลอยู่เคียงข้างกว่า 20,000 คนที่ตามมาเชียร์ถึงกาตาร์ คุณจะประสบความสำเร็จได้ทุกอย่าง เราเชื่อว่าเราสามารถชนะได้”

สเตอร์ลิง รอบินคืนทัพ อังกฤษ

ข่าวดี “สเตอร์ลิง” รอบินคืนทัพอังกฤษ ลุยบอลโลก 2022 หลังสะสางปัญหาครอบครัวจบแล้ว

หลังจากสะสางปัญหาที่เกิดขึ้นทางบ้านจบแล้ว ราฮีม สเตอร์ลิง กำลังจะบินกลับไปกาตาร์ ไปรับใช้ “อังกฤษ” ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึกฟุตบอลโลก 2022 อีกรอบ

วันพฤหัสบดีที่ 8 เดือนธันวาคม 2565 การเคลื่อนไหวก่อนเกมที่ ทีมชาติฝรั่งเศส จะโคจรมาเจอกับ ทีมชาติอังกฤษ ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่จะแข่งขันกันในตอนสุดสัปดาห์นี้

ทีมชาติอังกฤษ มีข่าวไม่ค่อยดีมาตั้งแต่เสีย เบน ไวท์ ป้อมหลังจากอาร์เซนอล ที่จำเป็นต้องบินกลับบ้านไปด้วยปัญหาที่เกิดขึ้นทางครอบครัว เหมือนกับ

ราฮีม สเตอร์ลิง ที่จำเป็นต้องบินกลับอังกฤษด้วยปัญหาที่เกิดขึ้นทางครอบครัวก่อนเกมในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่อังกฤษ เอาชนะ เซเนกัล ไปด้วยสกอร์ 3-0

ซึ่งล่าสุด ซัน สปอร์ต สื่อกีฬาชื่อดังของอังกฤษ แถลงการณ์ว่า ราฮีม สเตอร์ลิง พร้อมกลับสู่ฟุตบอลโลกกับทีมชาติอังกฤษแล้ว โดยมีแผนจะบินกลับมายัง กาตาร์ ในวันนี้

ซึ่งมีแถลงการณ์ว่า เจ้าตัวกลับไปที่อังกฤษ เพื่อไปสะสางปัญหาบ้านถูกลักทรัพย์ โดยมีการรับรองว่านาฬิกาและเครื่องประดับมูลค่า 300,000 ปอนด์ ซึ่งเจ้าตัวอยู่ในวิธีการรับรองขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับความปลอดภัยของครอบครัวก่อนที่จะบินกลับไปที่โดฮา และคาดว่าเจ้าตัวจะกลับมาช่วยอังกฤษ ทันในรอบน็อกเอาต์อย่างไม่ต้องสงสัย

สำหรับเกมในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ทีมชาติอังกฤษ จะเจอกับ ทีมชาติฝรั่งเศส โดยจะแข่งขันในคืนวันที่ 10 เดือนธันวาคม 2565 ที่สนาม อัล เบย์ท สเตเดียม เมืองอัล กอร์ ประเทศกาตาร์ เวลา 02.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย

อังกฤษ

บริษัทรับพนัน ยก “อังกฤษ” เต็งแชมป์ “ฟุตบอลโลก 2022” อันดับ 5 ส่วนบ๊วยมี 2 ทีม

บริษัทรับพนันในอังกฤษ ยก สิงโตคำราม เป็นเพียงแค่เต็งแชมป์ฟุตบอลโลก ลำดับที่ 5 ส่วนอันดับบ๊วยมี 2 ทีม ส่วนเต็ง 1 ก็ บราซิล นอนมาแต่ไกล

วันพฤหัสบดีที่ 8 เดือนธันวาคม 2565 สกายเบต บริษัทรับพนันถูกกฎหมายในประเทศอังกฤษ ออกมาเผยอัตราต่อรองของทั้ง 8 ทีมในรอบสุดท้ายเพื่อตำแหน่งแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

โดยเต็ง 1 ของรุ่นเป็น บราซิล โดยมีอัตราต่อรอง 2/1 (แทง 1 จ่าย 2 ไม่รวมทุน) ซึ่งนับว่าเป็นราคาที่สูงมากๆหรือถ้าหากจะแปลก็เป็นได้ว่า บราซิล จะสามารถไปถึงแชมป์โลกในปีนี้ได้ ตามมาด้วย แชมป์เก่าฝรั่งเศส อันดับ 2 ที่ 5/1 (แทง 1 จ่าย 5 ไม่รวมทุน) ส่วน อาร์เจนตินา ของ ลิโอเนล เมสซี ในอันดับ 3 ที่ราคา 6/1 (แทง 1 จ่าย 6 ไม่รวมทุน)

ขณะที่ โปรตุเกส ของ คริสเตียโน โรนัลโด และทีมชาติอังกฤษ ทีมขวัญใจมหาชน มาในอันดับ 4-5 เป็นลำดับที่ราคา 13/2 (แทง 2 จ่าย 13 ไม่รวมทุน) และ 7/1 (แทง 1 จ่าย 7 ไม่รวมทุน) ตามมาด้วย เนเธอร์แลนด์ อันดับ 6 ซึ่งมีเรตราคา 17/1 (แทง 1 จ่าย 17 ไม่รวมทุน)

ส่วน 2 อันดับสุดท้ายอย่าง โครเอเชีย และโมร็อกโก มีอัตราต่อรองเท่ากันที่ 50/1 (แทง 1 จ่าย 50 ไม่รวมทุน)

สำหรับโปรแกรมในรอบ 8 ทีมสุดท้ายแบ่งตามสายจะมีดังนี้

สายบน

คู่แรก ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ จะไปพบกับ ทีมชาติอาร์เจนตินา ซึ่งคู่นี้จะแข่งขันที่สนาม ลูซาอิล ไอคอนิค สเตเดียม ในคืนวันที่ 9 เดือนธันวาคม 2565 เวลา 02.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย

ส่วนคู่ล่างของสายบน บราซิล จะเข้าไปพบกับ ทีมชาติโครเอเชีย ในวันที่ 9 เดือนธันวาคม 2565 เวลา 22.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ที่สนาม เอดูเคชัน ซิตี้ สเตเดียม

สายล่าง

คู่แรก ทีมชาติฝรั่งเศส จะโคจรมาเจอกับ ทีมชาติอังกฤษ โดยจะแข่งขันในคืนวันที่ 10 เดือนธันวาคม 2565 ที่สนาม อัล เบย์ท สเตเดียม เมืองอัล กอร์ ประเทศกาตาร์ เวลา 02.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย

ส่วนอีกคู่หนึ่งในสายนี้ จะเป็นการเจอกันของ โปรตุเกส จะเข้าไปพบกับ โมร็อกโก โดยคู่นี้จะแข่งขันในวันที่ 10 เดือนธันวาคม เวลา 22.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ที่สนาม อัล ธูมามา สเตเดียม.

เซาธ์เกต เสียว!สองแข้งอังกฤษ พลาดฝึกซ้อมก่อนชน ฝรั่งเศส

แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ จำเป็นต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ เดแคลน ไรซ์ และ คัลลัม วิลสัน ก่อนเกมที่จะเจอกับทีมชาติฝรั่งเศส ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ วันเสาร์ที่ 10 เดือนธันวาคมนี้

ไรซ์ กองกลางจาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งลงสนามเป็นตัวจริงให้ทัพ “สิงโตคำราม” มาตลอดในฟุตบอลโลกคราวนี้ มีลักษณะอาการเจ็บป่วยทำให้มิได้ลงซ้อมตอนล่าสุดเมื่อวันพุธที่ 7 ธันวาคม

ส่วน วิลสัน แผงหน้าจาก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่ได้ลงสนามเป็นตัวสำรอง 2 จาก 4 เกม มีแถลงการณ์ว่า มีลักษณะอาการกล้ามตึงส่งผลให้มิได้ลงฝึกหัดเช่นเดียวกัน โดยทั้งสองเหลือเวลาให้เรียกความฟิตอีกเพียงแค่ 3 วันเท่านั้นก่อนลงดวลกับแชมป์เก่า

สำหรับเพื่อการลงฝึกซ้อมเมื่อวันพุธมีนักเตะ “สิงโตคำราม” ลงฝึกซ้อมทั้งหมด 22 คน หลังจากที่ผ่านมา เบน ไวท์ กองหลัง อาร์เซน่อล ได้ถอนตัวจากทีมชาติอังกฤษ และเดินทางกลับบ้านด้วยเหตุผลส่วนตัวเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว

ผลฟุตบอลโลก 2022 บราซิล

ผลฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย บราซิล พบ เกาหลีใต้

บราซิล โชว์ฟอร์มสมราคาเต็งแชมป์ ถล่มเกาหลีใต้ 4-1 โดยเป็นการยิงเหมาครึ่งแรกถึง 4 ประตู ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปพบ โครเอเชีย ในศึกฟุตบอลโลก 2022

การแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย คืนวันจันทร์ที่ 5 ธ.ค. 2565 ที่สนาม สเตเดี้ยม 974 ประเทศกาตาร์บราซิล พบกับ เกาหลีใต้ ทีมเต็ง “แซมบ้า” บราซิลเสียฟอร์มบางส่วนที่พ่ายแพ้ แคเมอรูน นัดปัจจุบัน แต่จบรอบแรกด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม ในขณะที่ “โสมขาว” เกาหลีใต้ ส่งท้ายด้วยการแซงชนะ โปรตุเกส ทำให้ผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นรองแชมป์กลุ่ม

ครึ่งแรก GOAL นาทีที่ 7 จากเกมที่เหนือกว่าตั้งแต่นาทีแรก “แซมบ้า” บราซิล มาได้ประตูขึ้นนำอย่างเร็ว จากจังหวะ เนย์มาร์ จับบอลได้ทางฝั่งขวาแล้วลากเลื้อยหาจังหวะก่อนตวัดให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ทางเสาสอง ก่อน วินิซิอุส ยิงสวนนายทวารเกาหลีอย่างเยือกเย็นบราซิล นำ เกาหลีใต้ 1-0

GOAL นาทีที่ 13 บราซิล หนีไปเป็น 2-0 จากจังหวะ ริชาร์ลิซอน ดาวยิงถูกเตะล้มในจุดโทษ และเป็นจุดลูกโทษของ บราซิล ยอดนักฟุตบอล เนย์มาร์ รับหน้าที่สังหารและไม่พลาด บราซิล นำ 2-0 และเป็นประตูที่ 77 ในนามทีมชาติของ เนย์มาร์

GOAL นาทีที่ 29 เกมตกเป็นของบราซิลอย่างทั้งมวล และหนีไปเป็น 3-0 จากการติดต่อประสานงานของ ติอาโก้ ซิลวา ที่จ่ายให้ ริชาร์ลิซอน หลุดเข้าไปแปง่ายสุดๆ บราซิล หนี เกาหลีใต้ 3-0

GOALนาทีที่ 36 ทัพแซมบ้ายังเดินหน้าล่าประตูไม่เลิก และ พังประตูหนีไกลเป็นลูกที่สี่ จากจังหวะ วินิซิอุส จูเนียร์ ได้บอลหน้าจุดโทษแล้วให้ ลูคัส ปาเกต้า ซัดเต็มข้อ บราซิลนำห่าง เกาหลีใต้ 4-0 และจบครึ่งแรกสกอร์นี้

ครึ่งหลัง GOAL นาทีที่ 76 หลังพังไปสี่ประตู บราซิลเริ่มผ่อน เกาหลีใต้ ก็เลยทำเกมบุกได้มากขึ้นและมาได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะยิงไกลนอกจุดโทษของ ปาร์ค ซังโฮ นักฟุตบอลผู้เล่นสำรองที่เปลี่ยนลงมาแทน ฮวาง อิน-บอม ในครึ่งหลัง เกาหลีใต้ ตีไข่แตก 1-4

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม หมดเวลาการแข่งขันบราซิล ชนะ เกาหลีใต้ 4-0 ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ โดยจะไปพบกับ โครเอเชีย โดยจะทำการแข่งขันในวันศุกร์ที่ 9 ธ.ค.

บราซิล

บราซิล เป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์บอลโลกที่ใช้งานผู้เล่นครบทุกราย

ตีเต้ ผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติบราซิล ได้ใจลูกทีมสุดๆหลังเลือกส่งนายประตูมือสามลงเล่นท้ายเกมที่เจอกับ เกาหลีใต้ พร้อมสร้างสถิติที่ไม่เคยมีทีมไหนทำได้มาก่อนในศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย

ทีมชาติบราซิล กลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ที่ใช้งานผู้เล่นในทีมครบทุกคน (รวมทั้งผู้เฝ้าประตูทั้ง 3 คน) หลังจากที่ผู้จัดการทีมฟุตบอล ตีเต้ ส่ง แวแวร์ตอน นายทวารมือสาม ลงสนามนาทีที่ 80 ในเกมการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่บราซิล ถล่ม เกาหลีใต้ 4-1 เมื่อวันจันทร์ที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา

ตีเต้ เลือกนักฟุตบอลมาติดทีมตามโควตา 26 คนภายในศึกฟุตบอลโลกคราวนี้ ซึ่งก่อนเกมเจอกับ เกาหลีใต้ นั้น มีถึง 25 คนที่ได้สัมผัสประสบการณ์บอลโลกที่ กาตาร์ เรียบร้อย เหลือเพียงแค่ แวแวร์ตอน นายประตูจาก พัลไมรัส เพียงคนเดียวที่ยังมิได้ถูกเรียกใช้บริการ

กระนั้นนาทีที่ 80 ด้วยสกอร์ที่นำ เกาหลีใต้ กินขาด 4-1 ตีเต้ ก็เลยตัดสินใจส่ง แวแวร์ตอน ลงไปเฝ้าเสาแทน อลีสซง ทำให้บราซิล ชุดนี้ สร้างประวัติศาสตร์ เป็นทีมแรกที่ใช้งานผู้เล่นในทีมครบทุกคน ในศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ทันที

ดังนี้ เอแดร์ซอน นายทวารมือสอง ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ที่บราซิล แพ้ แคเมอรูน 0-1 เมื่อวันศุกร์ที่ 2 ธ.ค.

สำหรับเกมรอบก่อนรองชนะเลิศของบราซิล จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 9 ธ.ค.นี้ โดยพวกเขาจะดวลกับ โครเอเชีย ที่ดวลจุดลูกโทษดับ ญี่ปุ่น 3-1 (เสมอ 1-1 ใน 120 นาที) เข้ารอบมาได้

เกาหลีใต้

เต็งแชมป์ไม่ไว้หน้า! บราซิล มาตามนัดอัด เกาหลีใต้ ลิ่ว 8 ทีมดวล โครเอเชีย

“เซเลเซา” ผลงานสมราคา เต็งแชมป์ รวมพลังเรียงหน้าทุบ “เกาหลีใต้” 4-1 โดยเกมนี้ เนย์มาร์ คืนสนามซัด 1 ตุงจ่อขยับสถิติทาบ เปเล่ พาทีมลอยลำเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ดวล โครเอเชีย วันที่ 9 ธันวาคม นี้ ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย คืนวันจันทร์ที่ผ่านมา

บราซิลของเทรนเนอร์ ติเต้ ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายมาได้ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม จี โดยเกมปัจจุบันแพ้ให้กับ แคเมอรูน มา 0-1 ทางด้าน เกาหลีใต้ ของเทรนเนอร์ เปาโล เบนโต้ พลิกล็อคเอาชนะ โปรตุเกส 2-1 ทำให้พวกเขาผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม เอช

11รายชื่อผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม

บราซิล (ระบบการเล่น 4-1-2-3)

อลีสซง เบ็คเกอร์ (ผู้รักษาประตู)
ดานิโล่, ติอาโก้ ซิลวา, มาร์กินญอส, เอแดร์ มิลิเตา, คาเซมิโร่, ลูคัส ปาเกต้า, ราฟินญ่า, เนย์มาร์, วินิซิอุส จูเนียร์, ริชาร์ลิซอน

เกาหลีใต้ (ระบบการเล่น 4-4-2)

คิม ซึง-กิว (ผู้รักษาประตู)
คิม มุน-ฮวาน, คิม มิน-แจ, คิม ยอง-กวอน, คิม จิน-ซู, จัง วู-ยัง, ฮวาง อิน-บอม, อี แจ-ซอง, ฮวาง ฮี-ชาน, ซน ฮึง-มิน, โช กยู-ซอง

ฟุตบอลโลก 2022

‘โสมขาว’สู้! ชนโปรตุเกส-อุรุกวัยยังมีลุ้น แซมบ้า-โปรตุเกสเตะสบาย ฟุตบอลโลก 2022

การแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ 22 ที่ประเทศกาตาร์ ในวันศุกร์ที่ 2 ธ.ค. 2565 เป็นการลงสนามรอบแรก นัดสุดท้าย ของสองกลุ่มสุดท้าย นั่นคือ กลุ่ม จี และ กลุ่ม เอช โดยยังมีลุ้นเข้ารอบกันถึง 6 ชาติด้วยกัน ฟุตบอลโลก 2022

เหตุการณ์ก่อนเกมจะเริ่มต้นขึ้นนั้น สายจี นัดแรก

สวิตเซอร์แลนด์ ชนะ แคเมอรูน 1-0

บราซิล ชนะ เซอร์เบีย 2-0, นัดสอง บราซิล ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 1-0

แคเมอรูน เสมอ เซอร์เบีย 3-3 ทำให้ บราซิล มี 6 แต้ม(ประตูได้เสีย+3) ผ่านเข้ารอบเป็นทีมแรก

สวิตเซอร์แลนด์ 3 แต้ม(0)

แคเมอรูน 1 แต้ม(-1)

เซอร์เบีย 1 แต้ม(-2)

สาย เอช นัดแรก อุรุกวัย เสมอ เกาหลีใต้ 0-0

โปรตุเกส ชนะ กาน่า 3-2, นัดสอง เกาหลีใต้ แพ้ กาน่า 2-3

โปรตุเกส ชนะ อุรุกวัย 2-0 โดยกลุ่มนี้ โปรตุเกส ผ่านเข้ารอบด้วยการมี 6 แต้ม(+3)

กาน่า 3 แต้ม(0)

เกาหลีใต้ 1 แต้ม(-1)

อุรุกวัย 1 แต้ม(-2)

การเตะในเวลา 22.00 น.กลุ่ม เอช ลุยพร้อม 2 คู่ “โสมขาว” ทีมชาติเกาหลีใต้ ยังไม่ชนะใคร เสมอ 1 แพ้ 1 มีแค่ 1 คะแนน เจอกับ “ฝอยทอง” ทีมชาติโปรตุเกส ผ่านเข้ารอบถัดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เกาหลีใต้ เกมที่แล้วแพ้ให้กับ กาน่า แบบสุดสนุก 2-3 ทำให้เงื่อนไขที่จะผ่านเข้าสู่รอบถัดไปจะต้องเอาชนะเท่านั้น เกมนี้ผู้จัดการทีม เปาโล เบนโต้ ยังคงจะต้องลุ้นว่า ฮวาง ฮี-ชาน แนวรุกจากวูล์ฟแฮมป์ตันจะฟิตไหม นอกเหนือจากนั้นไม่มีปัญหาอะไร มาในระบบ 4-2-3-1 พร้อมเปิดเกมรุกเต็มสูบ นำโดย จุง วู-ยัง, ฮวาง อิน-บอม, ควอน ชาง-ฮูน, จอง วู-ยอง, แก่นแก้ว ฮึง มิน และโช กยู-ซอง

ฟากฝั่ง โปรตุเกส เข้ารอบแล้วแต่ยังไม่รับรองการเป็นแชมป์กลุ่ม หลังเอาชนะ “จอมโหด” อุรุกวัย 2-0 เกมนี้ทีมของ เฟอร์นานโด ซานโตส ยังไม่มี ดานิโล่ เปเรยร่า แนวรับสารพัดประโยชน์ที่บาดเจ็บซี่โครงร้าว รวมไปถึง นูโน่ เมนเดส ในรายการของ โอตาวิโอ้ ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถามว่าจะฟิตเพียงพอไหม ที่คงเหลือกันครบ คาดว่าเกมนี้จะมีการโรเตชั่นทีมพอควร ดาวรุ่งอย่าง อันโตนิโอ ซิลวา คงจะสบโอกาสลงมาคุมแนวรับร่วมกับ รูเบน ดิอาส รวมไปถึง ดีโอโก้ ดาโลต์, ชูเอา ปาลินญ่า. อังเดร ซิลวา และราฟาเอล เลเอา สถิติการพบกันของสองทีม ดวลกันมา 1 ครั้งในศึกฟุตบอลโลก 2002 ในรอบแบ่งกลุ่ม เกาหลีใต้ เชือด 1-0 จากประตูชัยของ พัค จี-ซุง โดยนัดนั้น เปาโล เบนโต้ ผู้จัดการทีมเกาหลีใต้ คนปัจจุบัน ลงสนามนัดสุดท้ายในนามทีมชาติโปรตุเกส อีกด้วย

ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม จี

อีกคู่ “ดาวดำ” ทีมชาติกาน่า รอวันนี้มา 12 ปี หวังจะทวงแค้น ฟุตบอลโลก 2022

จากเหตุการณ์ดราม่าในศึกฟุตบอลโลก 2010 ดวลกับ “จอมโหด” ทีมชาติอุรุกวัย ที่มีแค่แต้มเดียว โดย กาน่า มี 3 คะแนน จากการเอาชนะ เกาหลีใต้ ในเกมปัจจุบัน นัดนี้รอคอยแค่เสมอก็คงจะพอในการเข้ารอบถัดไป ทีมของ อ็อตโต้ อัดโด้ ตามรายงานไม่มีนักเตะบาดเจ็บ หรือ ติดโทษแบน คาดว่าจะยึดทีมชุดเดิมอาจจะมีการเปลี่ยนบางตำแหน่งมาในระบบ 4-2-3-1 นำโดย ซาลิส อับดุล ซาเหม็ด, โธมัส ปาร์เตย์, จอร์แดน อายิว, อองเดร์ อายิว, โมฮาเหม็ด คูดูส และอีญากี้ วิลเลี่ยมส์

ทางฝั่ง อุรุกวัย ฟอร์มน่าผิดหวังสุดๆเสมอ 1 แพ้ 1 และยังทำประตูใครไม่ได้เลย เกมนี้จะต้องสู้ยิบตาหวังชนะเท่านั้นเพื่อลุ้นเข้ารอบถัดไป จำเป็นต้องรอคอยทดสอบความฟิตของ โรนัลด์ อเราโฮ่ กองหลังที่ไม่สมบูรณ์จะฟิตทันลงเล่นนัดสำคัญไหม ที่เหลือไม่มีปัญหาอะไร ปรับเล่น 3-5-2

เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้, มาติอัส เวซิโน่ และ โรดริโก้ เบนตานคูร์ คุมจังหวะแดนกลาง

หลุยส์ ซัวเรซ และ ดาร์วิน นูนเญซ เป็นคู่หัวหอก

สถิติการพบกันของสองทีม ดวลกันมา 1 ครั้งในศึกฟุตบอลโลก 2010 เสมอกันในเวลา 1-1 ยืดเวลาก็ทำอะไรกันไม่ได้ ก่อนที่อุรุกวัยจะดวลจุดลูกโทษเอาชนะไป

แล้วต่อจากนั้น ในเวลา 02.00 น.การดวลแข้ง กลุ่ม จี นัดสุดท้าย “หมอผี” แคเมอรูน มีอยู่ 1 คะแนน ดวลกับ “แซมบ้า” ทีมชาติบราซิล ที่เข้ารอบไปแล้ว โดยที่ แคเมอรูน นั้นได้แต้มจากการเสมอกับ เซอร์เบีย มาแบบสุดสนุก 3-3 เกมนี้ไม่มี อองเดร์ โอนาน่า นายทวารมือชั้นยอดขอแยกตัวออกมาจากทีมเพราะทัศนคติแนวทางการเล่นไม่ตรงกับกุนซือ ริโกแบร์ ซง ทำให้ เดวิส อีปาสซีย์ จะได้ลงเฝ้าเสาถัดไป ข้อจำกัดเดียวที่พวกเขาจะเข้ารอบคือจะต้องชนะเกมนี้เท่านั้น จัดทีมในระบบ 4-3-3

นำโดย อองเดร์-ฟร้องค์ แซมโบ้ อองกิสซ่า

ปีแอร์ คุนเด้, มาร์แต็ง ฮองก์ล่า, ไบรอัน เอ็มเบอูโม่

เอริค มักซิม ชูโป-โมติง และคาร์ล โตโก-เอคัมบี้

ทางฝั่ง “แซมบ้า” บราซิล ผ่านทะลุเข้ารอบ 16 ทีมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากเชือด “แดนนาฬิกา” สวิตเซอร์แลนด์ มาได้ 1-0 เกมนี้ยังคงหมดสิทธิ์ใช้งาน เนย์มาร์ และดานิโล่ สองแกนหลักที่บาดเจ็บ และยังจะต้องลุ้นว่าจะกลับมาทันทัวร์นาเมนต์นี้ไหม ที่คงเหลือกันครบ คาดว่าผู้จัดการทีม ตีตี้ จะโรเตชั่นทีม คงระบบ 4-2-3-1

ส่ง บรูโน่ กิลมาเรส คุมแดนกลางร่วมกับ คาเซมิโร่ แนวรุกวาง ราฟินญ่า ประสานงานกับ แอนโทนี่

กาเบรี่ยล มาร์ติเนลลี่ และกาเบรียล เฮซุส

สถิติการพบกันของสองทีม ดวลกันมา 6 ครั้งในทุกรายการ ไม่เคยเสมอกันเลย บราซิล ชนะได้ 5 และแคเมอรูน ชนะ 1

ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม เอช

อีกคู่เป็นเกมเดือดระหว่าง ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ เจอกับ ทีมชาติเซอร์เบีย

โดยที่ “ขุนพลเซิร์บ” เซอร์เบีย ทำผลงานได้น่าผิดหวังในเกมปัจจุบัน พวกเขาขึ้นนำ 3-1 แต่ไม่สามารถรักษาสกอร์ได้ทำให้เสมอกับ แคเมอรูน 3-3 มีแค่ 1 คะแนน เกมนี้จะต้องวัดกันเข้ารอบกับคู่แข่งโดยตรง มีเงื่อนไขต้องชนะเท่านั้น ตามรายงานทีมของ ดราแกน สตอยโควิช บางทีอาจจะรอคอยเช็คความฟิตของ มิลอส เวลจ์โควิช และสตราฮินย่า พาฟโลวิช แต่เชื่อว่าลงเล่นได้ ที่เหลือไม่มีปัญหาอะไรยึดระบบ 3-4-2-1

วาง เนมานย่า มัคซิโมวิช คุมแดนกลางร่วม

ซาซ่า ลูคิช ตัวริมเส้นสองฝั่งมี อันดริย่า ซิฟโควิช และฟิลิป คอสติช โดยมี เซอร์เกย์ มิลินโควิช-ซาวิช และ ดูซาน ทาดิช รอปั้นเกม

ส่งเสริมหน้าเป้าอย่าง อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช

ทางฝั่ง “แดนนาฬิกา” สวิตเซอร์แลนด์ ภายใต้การคุมทีมของ มูรัต ยาคิน ผลงานจัดว่ายอดเยี่ยมเลยทีเดียว เล่นได้อย่างเหนียวแน่นแม้ว่าจะแพ้ให้บราซิลในนัดปัจจุบัน ขณะนี้มีอยู่ 3 คะแนนขอแค่เสมอก็เข้ารอบแล้ว ถ้า แคเมอรูน แพ้ บราซิล แบบถล่มทลาย เกมนี้รอคอยทดสอบความฟิตของ โนอาห์ โอคาฟอร์ นอกเหนือจากนั้นอยู่กันครบ

นำโดย เรโม่ ฟรอยเลอร์, กรานิต ชาก้า, เซอร์ดาน ชากิรี่, มุสซ่า โซว์, เอดูอาร์โด้ วาร์กาส และบรีล เอ็มโบโล่

สถิติการพบกันของสองทีม ดวลกันมา 1ครั้งในฟุตบอลโลก 2018 รอบแบ่งกลุ่ม สวิตเซอร์แลนด์ เชือดชนะ 2-1

เอ็มบัปเป้ เปิดเรตดาวซัลโวสูงสุด

ใครมีสิทธิ์คว่ำ เอ็มบัปเป้?เปิดเรตดาวซัลโวสูงสุด ฟุตบอลโลก 2022

ร้านรับพนันที่ถูกต้องตามกฏหมายปรับอัตราต่อรองดาวซัลโวสูงสุด ฟุตบอลโลก 2022 อีกครั้งแล้วโดยยกให้ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ดาวยิงทีมชาติ ฝรั่งเศส รั้งเต็งหนึ่ง ขณะที่ เอ็นเนร์ วาเลนเซีย สตาร์ทีมชาติ เอกวาดอร์ ที่ยิงไปแล้วสามประตูเท่ากันถูกมองข้าม

เบตแฟร์ ร้านรับพนันยักษ์ใหญ่ปรับอัตราต่อรองดาวซัลโวสูงสุด ฟุตบอลโลก 2022 อีกทีหลังจากทุกทีมลงสนามในรอบแบ่งกลุ่มครบสองนัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

จากอันดับดาวซัลโวล่าสุด เอ็มบัปเป้ กดไปแล้วสามเม็ดเท่ากับ วาเลนเซีย และถึงแม้หัวหอกทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จะได้รับการวางตัวให้เป็นเต็งหนึ่ง แต่พ่อค้าแข้งอเมริกาใต้กลับไม่ติดโผในอันดับต้นๆและเป็น ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติ อาร์เจนติน่า เพื่อนร่วมสโมสรของ เอ็มบัปเป้ ที่ถูกยกให้เป็นเต็งสองหลังซัดให้ทีม ฟ้าขาว ไปแล้วสองเม็ด

สรุป อัตราต่อรองล่าสุดดาวซัลโว ฟุตบอลโลก 2022

คิลิยัน เอ็มบัปเป้ 23-10

ลิโอเนล เมสซี่ 7-1

ริชาร์ลิซอน 15-2

โคดี้ คักโป 14-1

อัลบาโร่ โมราต้า ,คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 16-1

เฟร์รัน ตอร์เรส , โอลิวิเยร์ ชิรูด์ , เอนเนร์ วาเลนเซีย 25-1

แฮร์รี่ เคน 33-1

สรุปอันดับดาวซัลโวล่าสุด ฟุตบอลโลก 2022

3 ประตู :คิลิยัน เอ็มมัปเป้ (ฝรั่งเศส) , เอนเนร์ วาเลนเซีย (เอกวาดอร์)

2 ประตู : บรูโน่ แฟร์นันด์ส (โปรตุเกส) ,บูคาโย่ ซาก้า (อังกฤษ) ,ลิโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนติน่า) ,โอลิวิเยร์ ชิรูด์ (ฝรั่งเศส) ,ริชาร์ลิซอน (บราซิล) ,เฟร์รัน ตอร์เรส (สเปน) ,โคดี้ คักโป (ฮอลแลนด์) ,อัลบาโร่ โมราต้า (สเปน) ,เมห์ดี้ ตาเรมี่ (อิหร่าน) ,อังเดร ครามาริช (โครเอเชีย),โช กยู ซอง (เกาหลีใต้) , โมฮัมเหม็ด คูดุส (กาน่า)

ฟุตบอลโลก 2022

เข้ารอบแต่ไม่ผ่อน! ฝรั่งเศส หวังเฮรวด เอ็มบัปเป้ นำทัพดวล ตูนีเซีย

“ตราไก่” ของกุนซือ ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ลงสนามแบบไร้ความกดดันหลังผ่านเข้ารอบ 16 ทีมเรียบร้อยการจัดกองทัพอาจมีโรเตชั่นแต่ยังวาง คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ นำทัพ ดวล ตูนิเซีย ทีมบ๊วย ของกลุ่ม ที่ถึงแม้ตามทฤษฏียังมีลุ้นแต่ค่อนข้างริบหรี่ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ดี คืนวันพุธที่ 30 พฤศจิกายนนี้

ตูนีเซีย

จาเลล กาดรี้ เทรนเนอร์ของทีมชาติ ตูนีเซีย พาทีมลงสนามล่าสุดปราชัยต่อ ออสเตรเลีย 0-1 ทำให้พวกเขายังไม่สามารถที่จะทำประตูได้เลย และรั้งบ๊วยของกลุ่มอยู่ ณ ในช่วงเวลานั้น เกมนี้จะต้องชนะแค่นั้นหากหวังจะลุ้นเข้ารอบน็อคเอ้าท์

ความพร้อมเพรียงของทีมในช่วงเวลานั้น กาดรี้ ไม่มีปัญหานักเตะเจ็บรบกวนเพิ่ม และยังได้รับข่าวดีเมื่อ เบอเชียร์ เบน ซาอิด นายด่านมือสองฟิตกลับมานั่งสำรองในเกมล่าสุดได้แล้ว

การจัดกองทัพไม่น่าจะปรับจากเดิมเท่าไรนัก โดยจะส่ง ดีแลน บรอนน์, ยาสซีน เมรีอาห์ และ มอนตัสเซอร์ ตัลบี้ ลงประจำแผงหลัง กลางสนามนำมาโดย วาชดิ เคอชริด้า, เอลลีเยส สคิรี่, อาอีสซ่า ลาอีมองนี่ และ อาลี อับดี้

เกมรุกวาง ยูสเซฟ เอ็มซักนี่ ปั้นเกมร่วมกับ นาอิม สลิตี โดยมี วาห์บี้ คาซรี่ ดาวยิงสูงสุดอันดับสองของทีมคอยจบสกอร์หน้าเป้า

ฝรั่งเศส

ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เทรนเนอร์ของทีมชาติฝรั่งเศสพาทีมลงสนามล่าสุด เฉือนเอาชนะ เดนมาร์ก 2-1 ทำให้ทีมแชมป์เก่าคว้าชัยมาได้ทั้งผอง และเป็นทีมแรกที่รับประกันเข้ารอบน็อคเอ้าท์

ความพร้อมเพรียงของทีมในเกมนี้ เดเด้ ไม่มีปัญหาแข้งเจ็บรบกวนเพิ่ม แต่มั่นใจว่าเกมนี้ควรจะมีการปรับกองทัพแน่ๆเหตุเพราะพวกเขารับประกันเข้ารอบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะพักพวกตัวหลักอย่าง อูโก้ โยริส, โอเรเลียง ชูอาเมนี่, ราฟาแอล วาราน,โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ และ อองตวน กรีซมันน์ ไป

ตำแหน่งนายทวารให้โอกาส สตีฟ ม็องด็องด้า ลงมาเฝ้าเสาแทน คู่เซ็นเตอร์ใช้ อิบราฮิมา โกนาเต้ คุมเกมกับ วิลเลี่ยม ซาลิบา แบ็กขวาเป็นหน้าที่ของ แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ ส่วนอีกฟากคาดว่าผู้จัดการทีมฟุตบอลวัย 54 ปี จะถอย เอดูอาร์โด้ กามาแว็งก้า ลงมายืนแบ็กซ้าย ซึ่งกองกลางจาก เรอัล มาดริด ได้ลงเล่นตำแหน่งนี้แล้วในเกมอุ่นเครื่องพบ อัล มาร์คิย่า ทีมในกาตาร์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

กลางสนามนำมาโดยแข้งจากลีก เอิง อย่าง มัตเตโอ เก็นดูซี่, จอร์แดน แวร์ตูร์ และ ยุสซุฟ โฟฟาน่า แดนหน้าส่ง คิงส์ลีย์ โกมัน ล่าตาข่ายร่วมกับ มาร์คุส ตูราม โดยยึด คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ที่เหมาสองประตูช่วยทีมคว้าชัยในเกมล่าสุดไว้ตามเดิม

ใครมีสิทธิ์คว่ำ เอ็มบัปเป้

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ตูนีเซีย (3-4-2-1) : อายเมน ดาห์เมน – ดีแลน บรอนน์, ยาสซีน เมรีอาห์, มอนตัสเซอร์ ตัลบี้ – วาชดิ เคอชริด้า, เอลลีเยส สคิรี่, อาอีสซ่า ลาอีดูนี่, อาลี อับดี้ – ยูสเซฟ เอ็มซักนี่, นาอิม สลิตี – วาห์บี้ คาซรี่

เทรนเนอร์ : จาเลล กาดรี้

ฝรั่งเศส (4-3-3) : สตีฟ ม็องด็องด้า – แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์, อิบราฮิมา โกนาเต้, วิลเลี่ยม ซาลิบา, เอดูอาร์โด้ กามาแว็งก้า – มัตเตโอ เก็นดูซี่, จอร์แดน แวร์ตูร์, ยุสซุฟ โฟฟาน่า – คิงส์ลีย์ โกมัน, มาร์คุส ตูราม, คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้

เทรนเนอร์ : ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์

ผลการพบกันที่ผ่านมา

31/05/10 กระชับมิตร ตูนีเซีย 1 – 1 ฝรั่งเศส

15/10/08 กระชับมิตร ฝรั่งเศส 3 – 1 ตูนีเซีย

21/08/02 กระชับมิตร ตูนีเซีย 1 – 1 ฝรั่งเศส

02/02/94 กระชับมิตร ตูนีเซีย 1 – 1 ฝรั่งเศส

ผลการพบกัน 5 นัดหลังสุด

ตูนิเซีย

26/11/22 แพ้ ออสเตรเลีย 0-1 (สนามกลาง) ฟุตบอลโลก

22/11/22 เสมอ เดนมาร์ก 0-0 (สนามกลาง) ฟุตบอลโลก

28/09/22 แพ้ บราซิล 1-5 (สนามกลาง) กระชับมิตร

22/09/22 ชนะ คอโมโรส 1-0 (สนามกลาง) กระชับมิตร

14/06/22 ชนะ ญี่ปุ่น 3-0 (เยือน) กิริน คัพ

ฝรั่งเศส

26/11/22 ชนะ เดนมาร์ก 2-11 (สนามกลาง) ฟุตบอลโลก

22/11/22 ชนะ ออสเตรเลีย 4-1 (สนามกลาง) ฟุตบอลโลก

26/09/22 แพ้ เดนมาร์ก 0-2 (เยือน) เนชั่นส์ ลีก

23/09/22 ชนะ ออสเตรีย 2-0 (เหย้า) เนชั่นส์ ลีก

14/06/22 แพ้ โครเอเชีย 0-1 (เหย้า) เนชั่นส์ ลีก

ยิงเร็วสุด ฟุตบอลโลก 2022 เดวีส์

ยิงเร็วสุดฟุตบอลโลก 2022 “เดวีส์” ทำประตูประวัติศาสตร์ให้ “แคนาดา” ในเวิลด์คัพ

เปิด 5 ประตูเร็วสุดใน ฟุตบอลโลก 2022 หลัง อัลฟอนโซ เดวีส์ แซงขึ้นที่ 1 จากประตูแรกในประวัติศาสตร์ของ แคนาดา ในเวิลด์คัพ 2 สมัย วันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 อัลฟอนโซ เดวีส์ ปีกซ้ายฝีเท้าจัดจากสโมสรบาเยิร์น มิวนิก สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นผู้เล่นคนแรกของทีมชาติแคนาดา ที่ทำคะแนนได้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย หลังโหม่งทำคะแนนขึ้นนำ ทีมชาติโครเอเชีย 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 2 (เวลาจริง 1 นาที 7 วินาที) ในฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 2 กลุ่มเอฟ ก่อนแพ้ 1-4 ตกรอบเป็นทีมที่ 2 ต่อจาก กาตาร์ เจ้าภาพ

ประตูนี้ถือเป็นประตูแรกในประวัติศาสตร์ของทีมชาติแคนาดา จากการเข้าร่วมฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย แค่เพียงสมัยที่ 2 หลังจากหนแรกในปี 1986 หรือเมื่อ 36 ปีที่แล้ว นายทัพ “เมเปิลส์” แพ้รวด 3 นัดในกลุ่มซี (แพ้ ฝรั่งเศส 0-1 / แพ้ ฮังการี 0-2 / แพ้ สหภาพโซเวียต 0-2) ก่อนที่จะปราชัย เบลเยียม ด้วยสกอร์ 0-1 ในฟุตบอลโลก 2022 นัดแรก กลุ่มเอฟ

นอกจากนี้ อัลฟอนโซ เดวีส์ ยังกลายเป็นผู้ทำประตูเร็วที่สุดอันดับ 1 ในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ โดย 5 อันดับแรก มีดังนี้

1. อัลฟอนโซ เดวีส์ นาทีที่ 2 (กลุ่มเอฟ แคนาดา แพ้ โครเอเชีย 1-4)

2. โคดี กัคโป นาทีที่ 6 (กลุ่มเอ เนเธอร์แลนด์ เสมอ เอกวาดอร์ 1-1)

3. เคร็ก กูดวิน นาทีที่ 9 (กลุ่มดี ออสเตรเลีย แพ้ ฝรั่งเศส 1-4)

4. ลิโอเนล เมสซี จุดโทษ นาทีที่ 10 (กลุ่มซี อาร์เจนตินา แพ้ ซาอุดีอาระเบีย 1-2)

5. ดานี โอลโม นาทีที่ 11 (กลุ่มอี สเปน ชนะ คอสตาริกา 7-0)

ฟุตบอลโลก 2022

ยิงเร็วไม่ช่วย! โครเอเชีย รัว 4 ลูก กลับแซงส่ง แคนาดา ตกรอบ ฟุตบอลโลก 2022

แคนาดา ได้ประตูออกนำเร็วที่สุดของทัวร์นาเมนต์ ทว่าไม่ดีพอ โดน โครเอเชีย รัวไม่ยั้ง 4 ลูก กลับแซงคว้าแชมป์ ลุ้นเข้ารอบในการแข่งขันนัดสุดท้ายที่จะเจอกับ เบลเยียม
ศึกฟุตบอลโลก 2022 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 คู่เวลา 23.00 น. ที่คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดียม เมืองอัล รายยาน ประเทศกาตาร์ เป็นเกมรอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 2 กลุ่มเอฟ โครเอเชีย ทีมอันดับ 12 ของโลก ที่เปิดฉากสนามด้วยการเสมอ โมร็อกโก 0-0 เจอกับ ทีมชาติแคนาดา อันดับ 41 ของโลก ที่นัดแรก แพ้เบลเยียม 0-1

เกมนี้ โครเอเชีย มาในระบบ 4-3-3 ประกอบด้วย โดมินิก ลิวาโควิช : โยซิป ยูราโนวิช, โยซิป ยูราโนวิช, ยอสโก กวาร์ดิโอล, บอร์นา โซซา : ลูกา โมดริช, มาร์เซโล โบรโซวิช, มาเตโอ โควาชิช : มาร์โค ลิวายา, อังเดร ครามาริช, อิวาน เปริซิช

ขณะที่ แคนาดา มาในระบบ 3-4-3 ประกอบด้วย มิลาน บอร์ยาน : อลิสแตร์ จอห์นสตัน, สตีเวน วิตอเรีย, คามาล มิลเลอร์ : ริชี ลาเรีย, อทิบา ฮัตชินสัน, สตีเฟน อุสตากิโย, อัลฟอนโซ เดวีส์ : เทจอน บูคาแนน, ไคล์ ลาริน, โจนาธาน เดวิด

เริ่มเกมไม่ถึง 2 นาที แคนาดา ได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็ว ในจังหวะบุกขึ้นมาหนแรก เทจอน บูคาแนน ได้บอลขึ้นมาด้านซ้าย ก่อนจะบรรจงเปิดเข้าไปในเขตโทษ อัลฟอนโซ เดวีส์ สอนเข้าไปโหม่งจ่ายบอลเข้าประตูไป ให้แคนาดา ออกนำ 1-0 เป็นประตูแรกในการแข่งขันฟุตบอลโลก ของประเทศแคนาดา และนับเป็นประตูที่เร็วที่สุดที่เกิดขึ้นในการแข่งขันฟุตบอลโลก ครั้งนี้ด้วย

หลังจากเสียประตู โครเอเชีย พยายามตั้งเกมบุกหวังทวงประตูคืน ทว่านาทีที่ 20 แคนาดา ได้ส่วนเร็วขึ้นมาด้านขวา ทจอน บูคาแนน ฉุดกระชากบอลเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะแทงต่อไปให้สหายแต่ยังไปติดแนวรับ โครเอเชีย

จากนั้นนาทีที่ 26 โครเอเชีย บุกขึ้นมาตรงกลาง มาร์ติน เออร์ลิช จ่ายทะลุไปถึง อังเดร ครามาริช หลุดเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะยิงเข้าไป ทว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นจังหวะล่ำหน้าไปที่ผ่านมาแล้ว

จากนั้นเกมเป็นของโครเอเชีย นาทีที่ 36 อิวาน เปริซิช ได้บอลหน้าเขตโทษ แคนาดา จ่ายทะลุเข้าไปในเขตโทษ บอลไปถึง อังเดร ครามาริช หลุดเข้าไปยิงไม่พลาด ให้ทีมตามตีเสมอ 1-1

โครเอเชีย รัว4 ลูก พลิกแซงส่งแคนาดา

นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก โครเอเชียมาได้ประตูขยับหนี 2-1 ในจังหวะ โยซิป ยูราโนวิช

จ่ายบอลให้ มาร์โค ลิวายา ซัดจากหน้าเขตโทษ บอลพุ่งเรียดเสียบตาข่ายเด็ดขาด ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง ยังเป็นโครเอเชีย ครอบครองบอลได้มากกว่า นาทที่ 54 ได้บุกขึ้นมา ลูกา โมดริช พาบอลขึ้นมาด้านขวา ก่อนจะจ่ายถึงแม้ว่าจะ มาเตโอ โควาชิช ได้ยิง บอลพุ่งตรงกรอบ แต่ยังไม่ผ่านมือ ผู้รักษาประตูแคนาดา

จากนั้นความพยายามของ โครเอเชียได้ผลสำเร็จ นาทีที่ 70 เมื่อได้ประตูขยับหนี 3-1 ในจังหวะ อิวาน เปริซิช ได้บอลริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะเปิดไปที่เสาไกล บอลไปถึง อังเดร ครามาริช

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาที 90+4 กองหลัง แคนาดา พลาด มิสลาฟ ออร์ซิช สบโอกาสควบบอลหลุดเดี่ยว ก่อนจะเอื้อเฟื้อส่งให้ ลอฟโร มาเยอร์ ยิงเข้าไปง่ายๆโครเอเชียก็เลยปิดเกมด้วยความมีชัย 4-1

ช่วงที่เหลือ ถึงแม้แคนาดา จะพยายามเปิดเกมรุกหวังทวงประตูคืน ทว่าโครเอเชียก็ยังสวนกลับได้อย่างน่าสะพรึงกลัว สุดท้ายไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม โครเอเชีย เอาชนะ แคนาดา 4-1 เก็บเพิ่ม เป็น 4 ยังได้ลุ้นเข้ารอบในเกมสุดท้าย ที่จะลงสนามเจอ เบลเยียม ในวันที่ 1 ธ.ค.65 เวลา 22.00 น. ขณะที่ แคนาดา ปราชัย 2 เกมรวด ตกรอบเป็นที่แน่ๆแล้ว แม้ว่าจะเหลือเกมอีก 1 นัดก็ตาม

มหาเศรษฐีแดนผู้ดี พร้อมสร้างสถิติโลกยื่นซื้อ แมนยู

มาโหด มหาเศรษฐีแดนผู้ดี พร้อมสร้างสถิติโลกยื่นซื้อ แมนยู จาก “ตระกูลเกลเซอร์”

ธรรมดาโลกไม่จำ สโมสรอย่าง แมนยู ประกาศขายทีมทั้งที จะซื้อราคาปกติอาจเป็นไปไม่ได้ วันพฤหัสบดีที่ 24 พ.ย. 2565 ภายหลังจากที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีแถลงการณ์ไปเมื่อวานนี้ว่า ตระกูลเกลเซอร์ แม่งาน ของทีมพร้อมที่จะเปิดรับฟังข้อเสนอแนะค้าขายทีมหรือรวมถึงการเข้ามาเป็นหุ้นส่วนด้วยกันแล้ว หลัง 17 ปีที่เข้ามาคุมอำนาจใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ถูกแฟนบอลไล่ส่ง และ ด่าทอไม่เว้นวัน

ซึ่ง ล่าสุด ซัน สปอร์ต สื่อกีฬามีชื่อเสียงของอังกฤษ ได้เปิดเผยว่า เซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ หนึ่งในมหาเศรษฐีที่มั่งมีมากที่สุดของประเทศอังกฤษ เตรียมที่จะยื่นข้อเสนอให้ ตระกูลเกลเซอร์ ได้ไตร่ตรองแล้ว โดยคาดว่าในเร็วๆนี้ จะมีความคืบหน้าในเรื่องนี้

มีการคาดการณ์ว่า ตระกูลเกลเซอร์ เจ้าของ แมนยู คนตอนนี้ ได้ตั้งราคาขายหลังเกิดกระแสข่าวความพอใจเทคโอเวอร์ต่อจากพวกเขาเอาไว้ที่ 5,000 ล้านปอนด์ (220,000 ล้านบาท) เลยทีเดียว แต่ ซัน สปอร์ต รายงาน

ว่า เซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ หวังจะทุบสถิติโลกซื้อแมนยู มาครอบครองด้วยจำนวนเงินมากถึง 9 พันล้านปอนด์ หรือประมาณ388,471 ล้านบาทเลยทีเดียว

เบคแคม พร้อมผนึกกลุ่มทุนใหม่เทกโอเวอร์ แมนยู

“เบคแคม” พร้อมผนึกกลุ่มทุนใหม่เทกโอเวอร์ แมนยู ต่อจากตระกูล “เกลเซอร์”

“เดวิด เบคแคม” ตำนานแข้ง “ทีมชาติอังกฤษ” และ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” เตรียมตัวที่จะผนึกกำลังกับกลุ่มทุนใหม่เพื่อเข้ายึดครองยอดทีมแห่งถิ่น โอลด์ แทรฟเฟิร์ด ต่อจากตระกูล “เกลเซอร์”

วันที่ 24 พ.ย. 65 เดวิด เบคแคม กองกลางระดับตำนานของ “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ และ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังที่ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เตรียมตัวที่จะผนึกกำลังกับกลุ่มทุนใหม่เพื่อเข้ายึดครองยอดทีมแห่งถิ่น โอลด์ แทรฟเฟิร์ด ต่อจากตระกูลเกลเซอร์ ที่เป็นเจ้าของทีมมานานกว่า 17 ปี จาการรายงานของ เดอะ ไทม์ส สื่อมีชื่อเสียง

เป็นที่เข้าใจกันว่า โจเอล เกลเซอร์ กับ อัฟราม เกลเซอร์ 2 พี่น้องนักธุรกิจคนประเทศอเมริกา ได้เปิดเผยว่าพวกเขายินดีที่จะพูดจากับคนที่พร้อมจะเข้ามาซื้อสโมสร นอกจากนี้ยังมีการเปิดรับการดำเนินแผนงานด้วยกันโดยที่อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีวิธีขายหุ้นจำนวนหนึ่งอีกด้วย แต่แต่ข้อแรกที่ต้องการขายทีมนั้นดูจะเป็นความต้องการสูงสุดมากยิ่งกว่า

ทั้งนี้ เดวิด เบคแคม พร้อมที่จะกระทำการพูดจากับกลุ่มทุนใหม่ที่ต้องการเข้ามาเป็นเจ้าของทีมคนใหม่ ท่ามกลางกระแสที่ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีชาวอังกฤษที่เป็นแฟนบอลตัวยงของ แมนฯ ยูไนเต็ด และอยู่ที่คัมป์นู ในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เมื่อปี 1999 นอกจากนี้ยังมีกลุ่มทุนจากนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ต้องการเข้ามาเป็นเจ้าของทีมเหมือนกัน

เศรษฐีเบอร์ 1 ผู้ดีแบะท่าเทคโอเวอร์

ทำเอาแฟน ลิเวอร์พูล มีเซ็ง! เศรษฐีเบอร์ 1 ผู้ดีแบะท่าเทคโอเวอร์แมนยู

เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีที่มั่งมีที่สุดของ อังกฤษ แสดงท่าพอใจที่จะเทคโอเวอร์ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างจริงๆจังๆแล้วหลังจากตระกูล เกลเซอร์ เจ้าของทีม ผีแดง สัญชาติ อเมริกัน ประกาศอย่างเป็นทางการพร้อมขายสโมสรเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ตระกูล เกลเซอร์ สร้างความแปลกใจไม่น้อยที่ตัดสินใจขายทีม แมนฯ ยูไนเต็ด หลังเป็นเจ้าของสโมสรดังที่ พรีเมียร์ลีก มานาน 17 ปี และไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยมือแม้จะถูกกองเชียร์ เร้ด อาร์มี่ รวมกลุ่มต่อต้านไล่หลายหนในหลายปีหลัง

ต่อเหตุการณ์ล่าสุด เดอะ เทเลกราฟ รายงานเมื่อ 23 พ.ย.ว่า เซอร์ แรทคลิฟฟ์ ขยับตัวตั้งท่าที่จะเทคโอเวอร์ ผีแดง แล้วหลังก่อนหน้านี้ไม่นานเขาออกโรงปฏิเสธการซื้อ หงส์แดง หากแม้กลุ่ม เอฟเอสจี จะแถลงขายสโมสรโดยให้เหตุผลว่าต้องการใช้เงินทุนกับ นีซ ทีมลูกหนังของ ลีกเอิง ที่เขาเป็นเจ้าของต่อไป

กระนั้นดีแล้ว เป็นที่รู้กันว่าคนมั่งมีที่มั่งมีที่สุดของ อังกฤษ เป็นแฟนพันธุ์แท้ของ แมนฯ ยูไนเต็ด มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว และเมื่อไม่นานมานี้เขาเคยแสดงท่าพร้อมซื้อทีมรักมาบริหารด้วยในช่วงที่ตระกูล เกลเซอร์ ถูกแฟนบอลต่อต้านครั้งใหญ่หนล่าสุด แต่เวลาเดียวกันเขาก็เห็นด้วยว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ด้วยเหตุว่าตระกูล เกลเซอร์ ไม่สนใจขายทีม

ต่อการแสดงความพร้อมเพรียงเทคโอเวอร์ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างจริงๆจังๆหลังมีการประกาศขายสโมสรจากนักธุรกิจชาว อเมริกัน นั้น เทเลกราฟ เผยว่าหากแม้ เซอร์ แรทคลิฟฟ์ จะพร้อมยื่นข้อเสนอ แต่ไม่น่าจะยินดีควักกระเป๋าสูงถึง 5 พันล้านปอนด์ (ราว 216,950 ล้านบาท) ตามที่มีการคาดกันว่าตระกูล เกลเซอร์ หวังได้รับค่าตอบแทนโดยประมาณนั้น

ทั้งนี้ เมื่อช่วงซัมเมอร์ เซอร์ แรทคลิฟฟ์ ตกเป็นข่าวกับ เชลซี เหมือนกันหลังทางการเมืองผู้ดีบังคับให้ โรมัน อบราโมวิช คนมั่งมี รัสเซีย ขายทีมจากปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการทำสงครามกับ ยูเครน แต่เป็น ทอดด์ โบลีห์ นักลงทุนชาวเมืองแยงกี้ที่แสดงความขมักเขม้นมากยิ่งกว่า และได้ครอบครอง สิงห์บลูส์ ในท้ายที่สุด

สหรัฐอเมริกา เวลส์

สหรัฐอเมริกา เวลส์ได้ทีเด็ด คีย์แมน ทำให้ไม่มีข้างแพ้

สหรัฐอเมริกา เวลส์เสมอกันด้วยสกอร์ 1-1 ชนิดที่ไม่ค่อยมีอะไรให้น่าเอ่ยถึงนัก แต่อย่างต่ำทั้งสองก็มี คีย์แมน เป็นผู้มีส่วนสำคัญนำมาซึ่งการก่อให้เกิดประตูในเกมนี้ขึ้น
แมตช์สหรัฐอเมริกา-เวลส์เป็นไปอย่างทื่อๆความหวือหวาไม่ค่อยมีให้มองเห็น ผลสกอร์ก็สิ้นสุดลงด้วยการแบ่งคะแนนกันไป แต่ต้องพูดว่า 1 คะแนนของทั้งสอง มาจากผู้เล่น คีย์แมน ประจำทีม

ครึ่งแรกเป็นช่วงเวลาของสหรัฐอเมริกาที่ครอบครองบอลได้เหนือกว่า แต่สหรัฐนั้นเป็นทีมที่เล่นอย่างไม่มีจินตนาการพราวแพรวอะไรมากสักเท่าไรนัก ไม่มีจินตนาการแพรวพราวอะไรมากสักเท่าไรนัก รูปเกมจึงจะต้องพูดว่าน่าเบื่อมาก

อย่างไรก็แล้วแต่ สหรัฐอเมริกาก็ยังมีผู้สร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้น คริสเตียน ปูลิซิช เป็นคนเดียวที่พอพอเพียงจะโชว์ลวดลายป่วนแนวรับเวลส์ได้ และประตูแรกของสหรัฐก็มาจากการจ่ายทะลุช่องอันเหมาะเหม็งของปูลิซิชให้ ทิโมธี เวอาห์ ได้ยิงนั่นเอง

ครึ่งหลังเป็นเวลส์ที่พยายามบุกเยอะขึ้น สวนทางกับสหรัฐอเมริกาที่ผ่อนเกมลง รูปร่างใหญ่โตของ คีฟเฟอร์ มัวร์ เป็นประโยชน์สำหรับในการเล่นลูกกลางอากาศมาก แต่เวลส์ก็เจาะตาข่ายไม่เป็นผลสำเร็จอยู่ดี

สหรัฐอเมริกาเวลส์เสมอกันด้วยสกอร์ 1 1

อย่างไรก็แล้วแต่ ในเมื่อ สหรัฐอเมริกา มีดาวเด่นอย่าง ปูลิซิช เวลส์เองก็มี แกเร็ธ เบล ที่เป็นตัวแบกทีมมาอย่างยาวนาน และเกมนี้เขาก็สวมบทฮีโร่อีกแล้ว

เกมนี้เบลเล่นไม่ดีมากแค่ไหนก็จริง แต่ด้วยความช่ำชองทำให้ยังสามารถออกฤทธิ์ได้เสมอ เบลได้โอกาสใช้เหลี่ยมบังบอลจากคู่แข่งจนตนเองถูกเสียบล้มในเขตโทษ ก่อนจะลุกมาสังหารเองเข้าไป

การมีคีย์แมน 2 คนนี้ ทำให้เกมจบเสมอกันอย่างมีสกอร์ เชื่อว่าถ้าไม่มี 2 คนนี้ ทั้งสองก็อาจจบแมตช์ด้วยสกอร์ 0-0 และตลอดเกมอาจไม่มีอะไรให้ชวนเอ่ยถึงเลย

เบลช่วยชีวิต! เวลส์ได้จุดโทษไล่เจ๊าสหรัฐฯ 1-1

ฟุตบอลโลก 2022 นัดแรกของกลุ่มบี ระหว่าง สหรัฐอเมริกา ลงเล่นที่สนามอัล รายยาน สเตเดียม ในเมืองอัล รายยาน ของเจ้าของงานกาตาร์ พบกับ เวลส์

เกร็ก เบอร์ฮอลเตอร์ กุนซือสหรัฐอเมริกา วางหมากมาในแผน 4-3-3 ใช้สามแนวรุกเป็น คริสเตียน พูลิซิช, ทิโมธี เวอาห์ และ จอช ซาร์เจนท์

ด้านเวลส์ของ ร็อบ เพจ เลือกจัดทัพมาในระบบ 3-4-3 ใช้สามแนวรุกเป็น แฮร์รี วิลสัน, แกเร็ธ เบล และ แดเนียล เจมส์

เริ่มเกมมาเป็นฝั่งของสหรัฐอเมริกาซึ่งครอบครองบอลบุกได้เหนือกว่า จนตราบเท่านาทีที่ 36 ก็มาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ คริสเตียน พูลิซิช จ่ายทะลุช่องให้ ทิโมธี เวอาห์ หลุดไปจิ้มด้วยขวาระยะเผาขนตุงตาข่าย ส่งให้พญาอินทรีออกนำ 1-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังเวลส์พยายามหาจังหวะบุกเพื่อหวังตามตีเสมอ และในช่วงท้ายเกมนาทีที่ 82 ก็มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ แกเร็ธ เบล ไปโดน วอล์คเกอร์ ซิมเมอร์แมน สกัดล้มลงไป ก่อนจะเป็น แกเร็ธ เบล ยืนขึ้นมาสังหารเองไม่พลาด ช่วยทำให้มังกรแดงตีเสมอ 1-1

จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมด้วยผลเสมอ 1-1 กอดคอแบ่งกันไปทีมละแต้ม

คีย์แมน

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

สหรัฐอเมริกา (4-3-3)

แม็ตต์ เทอร์เนอร์; แซร์จินโญ เดสต์ (เดอันเดร เยดลิน น.74), ทิม รีม, วอล์คเกอร์ ซิมเมอร์แมน, แอนโทนี โรบินสัน; เวสตัน แม็คเคนนี (เบรนเดน อารอนสัน น.66), ไทเลอร์ อดัมส์, ยูนุส มูซาห์ (เคลลีน อคอสต้า น.75); คริสเตียน พูลิซิช, ทิโมธี เวอาห์ (จอร์แดน มอร์ริส น.88), จอช ซาร์เจนท์ (ฮาจิ ไรท์ น.74)

สำรองไม่ได้ใช้

โจวานนี เรย์นา, เฮซุส เฟร์เรรา, อีธาน ฮอร์วาธ, ลูก้า เด ลา ตอร์เร, อารอน ลอง, คริสเตียน โรลแดน, แชก มัวร์, คาเมรอน คาร์เตอร์-วิคเกอร์ส, ฌอน จอห์นสัน, โจ สกัลลี

ใบเหลือง

แซร์จินโญ เดสต์ น.11, เวสตัน แม็คเคนนี น.13, ทิม รีม น.51, เคลลีน อคอสต้า น.90+10

เวลส์ (3-4-3)

เวย์น เฮนเนสซีย์; คริส เมฟาม, โจ โรดอน, เบน เดวีส์; คอเนอร์ โรเบิร์ตส์, อีธาน อัมปาดู (โจ มอร์เรลล์ น.90+5), อารอน แรมซีย์, เนโก้ วิลเลียมส์ (เบรนแนน จอห์นสัน น.79); แฮร์รี วิลสัน (ซอร์บา โธมัส น.90+3), แกเร็ธ เบล, แดเนียล เจมส์ (คีฟเฟอร์ มัวร์ น.46)

สำรองไม่ได้ใช้

คริส กันเทอร์, โจ อัลเลน, แดนนี วอร์ด, ทอม ล็อคเยอร์, จอนนี วิลเลียมส์, มาร์ค แฮร์ริส, อดัม เดวีส์, ดีแลน เลวิตต์, เบน คาบานโก้, รูบิน โคลวิลล์, แม็ทธิว สมิธ

ใบเหลือง

แกเร็ธ เบล น.40, คริส เมฟาม น.45+2